FOOD FOCUS MEAT & POULTRY 2020

Food Focus Thailand Roadmap: Meat & Poultry Edition งานใหญ่แห่งปีของ ฟู้ด โฟกัส ไทยแลนด์ ซึ่งจัดขึ้น 2 Track ด้วยกัน คือ Trend & Safety และ Tech & Inno โดยได้รับเกียรติจากท่านวิทยากรซึ่งเป็นผู้ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์เล่าสู่กันฟังตลอดทั้งวัน พร้อมด้วยกิจกรรมร่วมสนุกเช่นเคย

ภาพรวมตลาดภายในประเทศและตลาดส่งออกของผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และสัตว์ปีก
มูลค่าการบริโภคผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ในประเทศ (ปี พ.ศ.2563-2564) มีแนวโน้มการเติบโตชะลอตัว สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ต่อความต้องการในประเทศพุ่งสูงในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 จากการสำรองเพื่อบริโภค แต่กำลังซื้อผู้บริโภคยังอ่อนแรงแม้ผ่านพ้นมาตรการล็อกดาวน์ ด้านกลุ่มธุรกิจ Food Service ยังมีแนวโน้มหดตัวจากจำนวนลูกค้าที่ยังไม่กลับมาได้เท่าเดิม

แนวโน้มตลาดในระยะต่อไปคาดว่า การเปิดประเทศและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจะช่วยให้การบริโภคกระเตื้องขึ้น อย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้วกำลังซื้อผู้บริโภคยังคงอ่อนแรง แต่อาจจะกลับมาฟื้นตัวได้ภายในครึ่งหลังของปี 2564 นอกจากนี้ จากเทรนด์การบริโภคโปรตีนทางเลือก/วีแกน ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นก็ส่งผลต่อทิศทางการบริโภคเนื้อสัตว์ที่อาจลดลงได้

ในปี 2563 การส่งออกผลิตภัณฑ์ไก่ของไทยมีแนวโน้มหดตัว โดยไก่สดแช่เย็น/แช่แข็ง เติบโตต่อเนื่องในตลาดจีนจากการเปิดรับรองโรงงานไก่ในไทยเพิ่มเป็น 22 แห่ง ส่วนไก่แปรรูปหดตัวจากความต้องการในตลาดหลักอย่างญี่ปุ่นและสหภาพยุโรปที่ลดลง สำหรับตลาดใหม่ที่มีความต้องการผลิตภัณฑ์ไก่ของไทยมากขึ้น คือ สิงคโปร์ ฮ่องกง ออสเตรเลีย

ในปี 2564 คาดว่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ไก่ของไทยจะเติบโตชะลอ โดยไก่สดแช่เย็น/แช่แข็ง น่าจะเติบโตใกล้เคียงหรือชะลอตัวลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2563 ส่วนไก่แปรรูปอาจจะกลับมาโตในแดนบวกได้ ทั้งนี้ ประเด็นที่ต้องจับตา ได้แก่ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจคู่ค้า โอกาสในการกลับมาจัดการแข่งขันโอลิมปิกของญี่ปุ่น การแข่งขันในตลาดคู่ค้าสำคัญ มาตรการ NTBs จากคู่ค้า ค่าเงินบาทของไทย เป็นต้น

นอกจากนี้ จากการที่ไทยสามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 และโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกร (ASF) ได้ จึงเป็นโอกาสที่ไทยจะส่งออกผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ในประเทศต่างๆ เช่น บราซิล และสหรัฐอเมริกา พบว่าโรงชำแหละ โรงงานแปรรูป ต้องหยุดดำเนินการชั่วคราว จากการขาดแคลนแรงงานเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 และมาตรการล็อกดาวน์

ที่น่าสนใจอีกประเด็นก็คือ ผลิตภัณฑ์อาหารจากสัตว์ปล่อย GHG emissions สูงกว่าพืช ส่งผลให้กระแสของผู้บริโภคหันมาเลือกบริโภคอาหารที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า

อนาคตของผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์: มุมมองจากทรัพย์สินทางปัญญา
Traditional R&D Model เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาก่อน แล้วจึงดำเนินการด้านทรัพย์สินทางปัญญาในภายในหลัง เพื่อปกป้องเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมา แต่ในปัจจุบันเป็นยุคของ Strategic R&D Model ซึ่งเน้นการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนกระบวนการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้ได้งานที่มีมูลค่าสูง และสามารถปกป้องเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาควบคู่ไปกับการใช้กลยุทธ์ด้านทรัพย์สินทางปัญญาที่เข้มแข็งตั้งแต่ต้น
ยกตัวอย่าง Tyson Foods ผู้ผลิตและแปรรูปเนื้อสัตว์รายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา และเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเนื้อสัตว์ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของโลก โดย Tyson Foods ถูกจัดให้อยู่ใน S&P500 และอยู่ในอันดับที่ 79 รายชื่อบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาประจำปี ค.ศ.2020 โดยมีบริษัทย่อยในการดำเนินธุรกิจ เช่น Jimmy Dean, Hillshire Farm, Ball Park, Wright Brand กลยุทธ์สำคัญของบริษัทในปัจจุบัน คือ มุ่งเน้นไปที่การผลิตโปรตีน ไม่ว่าจะเป็น โปรตีนจากสัตว์หรือจากพืชก็ตาม
จากการสืบค้นด้านทรัพย์สินทางปัญญาของจำนวนการประดิษฐ์ด้านอาหาร บริษัท Tyson Foods ระหว่างปี ค.ศ.2011-2020 พบว่า สิทธิบัตรที่พบมากในปี ค.ศ.2012 เกี่ยวกับการตัดซี่โครงหมู และกระบวนการผลิตผงเปลือกไข่เพื่อใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ชีวภาพ นอกจากนี้ พบสิทธิบัตรเกี่ยวกับการแปรรูปเนื้อสัตว์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี ค.ศ.2014-2016 และพบสิทธิบัตรที่เพิ่มขึ้นมาในปี ค.ศ.2016 เกี่ยวกับอุปกรณ์บ่มอาหาร ประกอบด้วย ระบบควบคุมสิ่งแวดล้อมแบบปิด ระบบถ่ายเทความร้อนแบบปิด และเซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิ

รูปแกลลอรี่กิจกรรม​